โ ด ย โ อ ส ธี
คำเตือน – นี่เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ห้ามคิดต่อ ตีความ หรือนำไปเชื่อมโยงกับบุคคลอันมีตัวตนจริง
เสียงเพลงยอดนิยมจากลำโพงยักษ์ชอนไชทุกซอกมุมของโรงเรียน
คลื่นเสียงเร่งเร้าให้เด็กๆ ไปรวมตัวยังหอประชุม
มีเพียงบางกลุ่มต้องรีบกลับบ้านตามคำสั่งผู้ปกครอง
พวกเขาจึงได้สวนทางกับรถยุโรปสุดหรูที่แล่นผ่านประตูโรงเรียนเข้ามา
ทุกสายตาล้วนจับจ้องอย่างพร้อมเพรียง
หลายคนพยายามเพ่งทะลุผ่านฟิล์มกรองแสงมืดทึบ
เพราะคิดว่ามันเป็นพาหนะของนักร้องผู้กำลังจะมาเปิดการแสดง
ถ้ามีเด็กตาดีมองเห็นข้างในคงต้องผิดหวัง
เพราะผู้โดยสารบนเบาะหลังคือชายวัยกลางคน
อายุและหน้าตาของเขาไม่คล้ายนักร้องขวัญใจวัยรุ่นเด็ดขาด
แต่ชายไทยเชื้อสายจีนคนนี้กลับมีอำนาจเหนือนักร้องนักดนตรีทั่วประเทศ
เขาคือ “อาเฮีย” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอุตสาหกรรมเพลงไทย
อาเฮียเดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการโรงเรียนใสบริสุทธิ์
อีกหนึ่งโครงการที่นำนักร้องมาชักชวนเยาวชนไทยห่างไกลยาเสพติด
โครงการประเภทนี้ถูกจัดขึ้นทุกปี
โดยไม่มีใครทำวิจัยว่าลดจำนวนเด็กติดยาได้มากน้อยแค่ไหน
มันเป็นเพียงการใช้พื้นที่ของโรงเรียนเพื่อประชาสัมพันธ์ศิลปินในสังกัดต่างหาก
“สุดท้ายนี้ ผมอยากให้คำขวัญของโครงการติดอยู่ในใจน้องๆ ทุกคน
ติดดนตรีดีกว่าติดยาเสพติดครับ”
อาเฮียกล่าวทิ้งท้ายก่อนลงจากเวที มีเสียงตบมือดังเปาะแปะตามมารยาท
อาเฮียรู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครสนใจฟังหรอก สิ่งที่นักเรียนหนุ่มสาวเฝ้ารอมันต่อจากนี้ต่างหาก
พอศิลปินรายแรกปรากฏตัว เสียงกรีดร้องก็ดังกระหึ่ม
จนกระเบื้องมุงหลังคาหอประชุมเก่าแก่แทบแตกร้าว
อาจารย์อาวุโสต้องลุกหนีเพราะทนพฤติกรรมไร้ระเบียบของลูกศิษย์ไม่ไหว
เยาวชนของชาติพากันส่ายหัวไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามัน
ทุกคนเส้นผมยุ่งกระเซิง เหงื่อไคลไหล่เยิ้ม ชายเสื้อหลุดลุ่ย
เสียงดนตรีทำให้พวกเขาลืมเลือนทุกสิ่งรอบตัว
เมื่อเพลงสุดท้ายจบลงสภาพผู้ชมก็มอมแมมจนดูไม่ได้
อาจารย์ใหญ่ต้องสั่งให้แต่งตัวเสียให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้าน
นักเรียนทำตามอย่างงุ่มง่ามคล้ายคนละเมอ
นัยน์ตาพวกเขาเหม่อมองไปยังเวทีว่างเปล่า
ต่างหวังให้มีการแสดงปิดท้ายรายการอีกสักเพลง
ส่วนอาเฮียแอบถอดที่อุดหูซึ่งใส่ไว้โดยไม่ให้ใครเห็น
เขากล่าวลาคณะอาจารย์และคนจากหน่วยงานต่อต้านยาเสพติด
ก่อนจะแวะไปทักทายศิลปินด้านหลังเวที แล้วจึงสั่งให้คนขับรถพากลับบริษัท
อาคารสำนักงานของอาเฮียเป็นตึกสูงใหญ่หลายชั้น
แต่น้อยคนจะรู้ว่าทีมนักแต่งเพลงอันโด่งดังนั้นประจำการอยู่ชั้นใต้ดิน
ประตูลิฟท์เปิดออกสู่โรงงานผลิตเพลงฮิต
มันดูเหมือนห้องทดลองมากกว่าห้องบันทึกเสียง
ด้านหนึ่งติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์หลายชนิด
ส่วนอีกด้านก็มีกรงหนูขาวส่งเสียงจี๊ดจ๊าดกันเต็มไปหมด
เมื่อเห็นเจ้าของบริษัท
หัวหน้าแผนกในชุดเสื้อกาวน์รีบเดินมารายงานความคืบหน้าทันที
“เสียงเบสแบบใหม่ของเราให้ผลดีมากครับ”
ทำนองเพลงดังขึ้น มันไม่แตกต่างจากเพลงป๊อปทั่วไป
แต่ถ้าให้นักดนตรีประสาทหูชั้นเยี่ยมฟังก็อาจรู้สึกถึงความผิดปกติ
“แล้วอาการพวกมันเป็นไงบ้าง”
“ไม่ยอมแตะอาหารเลยครับ เอาแต่ยืนหันหูไปทางลำโพง”
“อย่างนี้คงฮิตแน่นอน”
“ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ”
“ดี คุณส่งให้พวกชั้นยี่สิบเขียนเนื้อเพลงได้เลยนะ”
อาเฮียเดินไปดูหนูขาวในตู้กระจกกลางห้อง
พวกมันถูกกรอกหูด้วยบทเพลงเดิมตลอดวัน
จากนั้นจึงหยุดเปิดเพลงเพื่อสังเกตพฤติกรรม
ตอนนี้หนูในตู้มีท่าทางงุ่นง่าน
อาการคล้ายคนลงแดงของสัตว์ตัวน้อยทำให้เขายิ้มอย่างพึงพอใจ
ระหว่างขึ้นลิฟท์ไปห้องทำงาน อาเฮียวางแผนในใจว่าจะให้ใครร้องเพลงนี้
แต่ไม่ว่าใครร้องก็ต้องโด่งดังอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากทีมผลิตอันยอดเยี่ยมแล้ว เขายังมีสื่อในมือมากกว่าใคร
ทั้งรายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ และทัวร์คอนเสิร์ต
ช่องทางปล่อยของที่มากมายทำให้อาเฮียมั่นใจว่าไม่มีคนหนีเพลงของเขาพ้น
ติดดนตรีดีกว่าติดยาเสพติด
ตัวหนังสือสีสดใสพิมพ์อยู่บนโปสเตอร์ที่แปะไว้ทั่วทางเดินในบริษัท
จะมีใครฉุกคิดบ้างไหมว่า “ติดดนตรี” ของอาเฮียหมายความว่าอะไร.
มีแต่กู๋ ๆ เฮีย ๆ ไม่มีอาบังเหรอ ?